ณ ที่ดินขนาด120ตารางวา ในซอยย่านรามคำแหง กลางที่ดินมีต้นมะฮอกกานีสูงตระหง่านที่คุณพ่อของเจ้าของบ้านปลูกเอาไว้เมื่อ30ปีก่อน " เราจะสร้างบ้านที่มีพื้นที่เป็นสัดเป็นส่วน มีสวนให้เด็กๆได้เล่นกับดินและต้นไม้ มีพื้นที่ส่วนกลางที่ทุกคนอยากอยู่ด้วยกัน แต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง รองรับการครอบครัวของเด็กๆในอนาคตไปด้วย และคงต้นมะฮอกกานีนี้ไว้ด้วยได้ยังไง " นี่คือโจทย์ตั้งต้นของบ้านหลังนี้ ด้วยความผูกพันระหว่างเจ้าของกับต้นไม้ใหญ่นี้ เราจึงเลือกให้ต้นมะฮอกกานีนี้เหมือนเป็นหัวใจของบ้าน เราจัดวางตัวอาคารเป็นทรงตัวยูล้อมต้นมะฮอกกานีไว้ จัดวางให้อาคารมีคยวามสูงลดหลั่นกันไป จากหน่ึ่งชั้นทางตะวันออกเฉียงใต้ สองชั้นตะวันออกเฉียงเหนือ และสามชั้นทางตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อเปิดให้อาคารดักลมเข้าบ้านได้จากทุกมุม ในขณะเดียวกันเลือกจัดวางพื้นที่ใช้สอยและหน้าต่างตามทิศลมและเวลาของแสงแดด ให้แสงส่องเข้าถึงแต่ละพื้นที่ ในเวลาที่เหมาะสม อาทิ 8โมงเช้า แดดส่องที่ห้องนอน ซึ่งเป็นเวลาตื่นนอนของผู้อยู่อาศัยพอดี ภายนอกเลือกใช้วัสดุที่ค่อนข้างดิบ ให้ความเป็นธรรมชาติสูง และเก็บเรื่องราวผ่านเวลาได้ดี อาทิหินธรรมชาติ อิฐแดง หรือผนังคอนกรีตแกะแบบจากไม้สน ให้ความรู้สึกสงบ และต่อเนื่องกับธรรมชาติของคอร์ทต้นมะฮอกกานีมากที่สุด ในขณะที่พื้นที่ภายใน เจ้าของบ้านชอบไม้ไทยที่มีออกเข้ม แต่ยังต้องให้ความรู้สึกโปร่งและไม่และบรรยากาศอึมครึม การตกแต่งภายในทีมงานจึงเลือกใช้ไม้สีมะฮอกกานีและสัก ตัดกับสีขาว ครีม และ เทา เน้นการใช้รายละเอียดงานไม้ให้ดูเบาสบาย เช่นขั้นบันไดแบบลอย และคานไม้ประดับต่างๆ เมื่อประกอบกับบริบทโดยรอบ แสงเงาที่ลอดผ่านช่องระแนงและร่มไม้ ลมที่ผ่านตัวบ้านแบบอ่อนๆทั้งวัน และครอบครัวที่ใช้มองเห็นกันจากทุกพื้นที่ ทำให้บ้านดูปลอดโปร่งและมีชีวิตชีวา และล้อมด้วยธรรมชาติ สุดท้ายนี้ พื้นที่ทุกส่วนของตัวบ้านถูกร้อยเรียงเชื่อมเข้าหากัน ผ่านต้นมะฮอกกานีต้นเดียวกันนี้ เราจึงเรียกบ้านหลังนี้ว่า บ้านมะฮอกกานี